Wednesday, October 28, 2009

มาคารองสตรอว์เบอรี่ : Strawberry Macarons with Pistachio - Strawberry Butter Cream & Strawberry Jelly

ตั้งแต่ทำมาคารองมาประทับใจรสนี้มากที่สุดค่ะ อร่อยมากมาย ถูกใจเหลือเกิน ทำกิน 2 วันติดกันแล้วเนี่ย รู้ว่าทำให้อ้วนๆๆ แต่รสชาติมันยั่วยวนมากๆ ห้ามใจไม่ได้จริงๆ ค่ะ

ส่วนผสม

อัลมอนด์มีล 42 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 65 กรัม
ไข่ขาว 35 กรัม
เกลือป่น 1 หยิบมือ
สีแดง 2 หยด
น้ำตาลทราย 10 กรัม
กลิ่นสตอว์เบอรี่หรือสตรอว์เบอรี่สดบดแล้วกรองประมาณ 1 ชช. หรือจะไม่ใส่เลยก็ได้ค่ะ
พิสตาชิโอบดละเอียดสำหรับโรยหน้า


วิธีทำ
  • เตรียมถาดอบ 2 ถาด ปูกระดาษไขรองไว้ให้เรียบร้อย นำถุงบีบใส่หัวบีบกลมวางไว้บนถ้วยหรือแก้วทรงสูง เตรียมไว้ให้พร้อมเลยค่ะ
  • ผสมอัลมอนด์มีลกับไอซิ่งเข้าด้วยกัน แล้วนำไปบดอีกครั้ง เสร็จแล้วก็นำไปร่อนผ่านตะแกรงตาห่าง 1 ครั้ง เม็ดที่หยาบๆ ก็แยกออกค่ะ หากไม่แยกผิวมาคารองจะเป็นตะปุ่มตะป่ำไม่เรียบสวยนะคะ
  • จากนั้นก็จัดการตีไข่ขาวกับเกลือและสีแดงด้วย ความเร็วต่ำจนเป็นฟอง แล้วจึงเปลี่ยนเป็นความเร็วสูง ค่อยๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไปตีผสมจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อนและผิวขึ้นเงาค่ะ สุดท้ายแบ่งส่วนผสมแห้งลงไปตะล่อมกับไข่ขาวอย่างเบามือด้วยพายยางจนเข้ากัน ดี เราแบ่งใส่ 3-4 ครั้งค่ะ ส่วนผสมมีลักษณะเงาเนียนเหมือนแมกมาแล้วหยุดคนทันทีค่ะ
เทส่วนผสมใส่ถุงบีบแล้วบีบลงบนถาดที่เตรียมไว้ให้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 ซม. และบีบให้มาคารองแต่ละชิ้นห่างกันประมาณ 5 ซม. ค่ะ เมื่อบีบจนส่วนผสมหมดแล้วก็พักมาคารงไว้ประมาณ 30-60 นาทีจนผิวแห้งดี โรยหน้าด้วยพิสตาชิโอบด (หรือไม่โรยก็ได้) ก่อนส่งเข้าเตาอบค่ะ

อุ่นเตาอบ 140 องศาเซลเซียส วางถาดตรงชั้นกลางของเตาอบ อบไฟล่างอย่างเดียวประมาณ 8-10 นาที หรือจนกว่าจะสุก นำออกจากเตาอบ จับกระดาษไขยกขึ้นด้านหนึ่ง แล้วหยดน้ำลงไปบนถาดอบขณะที่ยังอุ่น 2 หยด พักไว้ประมาณ 5-10 วินาทีแล้วแกะขนมออกจากกระดาษไขทันที ไอน้ำจะช่วยให้ขนมหลุดจากกระดาษไขอย่างง่ายดาย อย่าปล่อยไว้นานนะคะ เดี๋ยวไอน้ำซึมผ่านกระดาษ ขนมจะแฉะได้ พักไว้บนตะแกรงให้เย็นสนิทแล้วจึงใส่ไส้ค่ะ

ส่วนผสมไส้บัตเตอร์ครีมสตรอว์เบอรี่
ผสตรอว์เบอรี่สดหรือแช่แข็งหั่นเต๋าเล็กๆ 30 กรัม
น้ำมะนาว 1 ชช.
น้ำตาลทราย 15 กรัม
เนยสด 30 กรัม

ใส่สตรอว์เบอรี่กับน้ำตาลทรายและน้ำมะนาวในหม้อใบเล็ก นำขึ้นตั้งไฟจนเดือดน้ำตาลละลายหมด ใช้ทัพพีกดๆ สตรอว์เบอรี่ให้เนื้อละเอียดดีด้วยค่ะ เคี่ยวสัก 2-3 นาทีจนกลายเป็นแยมข้นเหนียวดีแล้วก็ยกลงจากเตา พักไว้ให้เย็นสนิทค่ะ (เรา กรอง 1 ครั้งเพราะอยากได้เนียนๆ ไม่มีเมล็ดมาให้ระคายเคือง ใครไม่กรองก็ได้ค่ะ )จากนั้นก็หันไปตีเนยสดจนเนียน แล้วจึงใส่แยมสตรอว์เบอรี่ลงไปตีพอเข้ากันค่ะ

ส่วนผสมไส้บัตเตอร์ครีมพิสตาชิโอ
พิสตาชิโออบบดละเอียด 10 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 10 กรัม
เนยสด 30 กรัม

ตีเนยกับน้ำตาลไอซิ่งจนเนยเนียนฟู ใส่พิสตาชิโอบดลงไปตีให้เข้ากัน เสร็จแล้วค่ะ

ส่วนผสมสตรอว์เบอรี่เจลลี่
สตรอว์เบอรี่หั่นเต๋าเล็กๆ 25 กรัม
น้ำตาลทราย 10 กรัม
น้ำองุ่น 30 กรัม
ผงเจลลี่ (Cake Glaze) 3 กรัม

ผสมสตรอว์เบอรี่กับน้ำตาลทรายและน้ำองุ่นใส่หม้อตั้งไฟจนเดือดประมาณ 1-2 นาที แล้วลดไฟอ่อน ละลายผงเจลลี่กับน้ำเย็นเล็กน้อย ค่อยๆ เทเจลลี่ใส่หม้อแล้วคนตลอดเวลาจนเจลลี่หมด และส่วนผสมเดือดอีกครั้งก็ปิดไฟ ตักเจลลี่ใส่พิมพ์เล็กๆ ใส่ตู้เย็นไว้ค่ะ

เอาล่ะ ตัวมาคารองก็ได้แล้ว ไส้มีแล้ว คราวนี้มาประกอบร่างกันค่ะ นำมาคารอง 1 ชิ้น บีบครีมสตรอว์เบอรี่เป็นวงรอบนอก บีบครีมพิสตาชิโอด้านใน วางเจลลี่สตรอว์เบอรี่ลงบนครีม แล้วนำมาคารองอีกชิ้นมาประกบค่ะ

ประกอบร่างเรียบร้อยแล้วก็ลองชิมหน่อยสิ ลุ้นๆ ว่าจะอร่อยอย่างที่หวังรึเปล่า เราวางเจลลี่ลงไปแล้วก็กดๆ มันซะเกือบจมกับครีม ถ่ายรูปเลยเห็นแวบๆ มาแค่นิดเดียวเอง จริงๆ เจลลี่เป็นรูปหัวใจหนาประมาณ 1/2 ซม. ค่ะ ชิมหน่อยๆ อืมมมมม... อร่อยมั่กๆ เปรี้ยวๆ หวานๆ มันๆ หอมๆ คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปกับการทำค่ะ กินอย่างมีความสุขเลยเรา

Saturday, October 24, 2009

ปอเปี๊ยะสด : fresh spring roll

ปอเปี๊ยะสด เนี่ยเป็นอาหารสุดโปรดของเราเลยจ้ะ เชื่อว่ากินทุกวันก็ไม่เบื่อเลยแหละ นี่่ก็กิน 4 วันติดกันแล้วนะเนี่ย

ส่วนผสมปอเปี๊ยะสด ปริมาณกะเอาเองตามชอบนะคะ
1. ปูอัด
2. กุ้งสด
3. อกไก่
4. ผักสลัด
5. แตงกวา
6. แครอท
7. แผ่นปอเปี๊ยะเวียดนาม

หมายเหตุ สำหรับไส้ปอเปี๊ยะเนี่ย จริงๆ แล้วก็ใช้อะไรก็ได้ตามใจคนกินนะคะ ไม่จำเป็นต้องเหมือนที่เราบอกไว้ข้างบนเป๊ะๆ ถ้าใครชอบพวกกุนเชียง ไส้กรอก เต้าหู้ สะระแหน่ โหระพา ถั่วงอก ไข่เจียว เนื้อปู เส้นขนมจีนฯลฯ ก็ดัดแปลงได้ตามชอบเลยค่ะ

วิธีทำ
- ปูอัดผ่าครึ่งตามยาว
- ผักสลัดเด็ดใบแล้วล้างให้สะอาด สะเด็ดน้ำพักไว้
- แตงกวาเอาไ่ส้ออกแล้วหั่นเป็นเส้นตามยาว
- แครอทปอกเปลือก แล้วหั่นเป็นเส้นตามยาว
- กุ้งแกะเปลือกออกให้หมดแล้วนำไปลวกให้สุก หั่นเป็นชิ้นพอคำ
- อกไก่ล้างให้สะอาด หั่นเป็นเส้นๆ ไม่หนามาก แล้วนำไปลวกให้สุก

นำหม้อใส่น้ำตั้งไฟ ใส่เกลือ 1/2 ชช. น้ำตาลทราย 1 ชช. น้ำส้มสายชู 1 ชช. ลงไป ต้มจนเดือดใส่แครอทลงไปลวกประมาณ 1 นาที ใส่แตงกวาแล้วปิดไฟ ตักแตงกวาและแครอทขึ้นสะเด็ดน้ำทันที

เมื่อถึงเวลาห่อปอเปี๊ยะสด นำน้ำร้อนใส่ชามอ่างใบใหญ่เตรียมไว้ นำแผ่นปอเปี๊ยะเวียดนามลงผ่านน้ำร้อนประมาณ 5-10 วินาที หรือจนกว่า แผ่นปอเปี๊ยะจะนิ่ม ยกขึ้นจากอ่างน้ำร้อน สะบัดน้ำออก แล้ววางแผ่นปอเปี๊ยะบนเขียง วางผักสลัด / สะระแหน่ / ใบโหระพา ลงบนแผ่นปอเปี๊ยะ ตามด้วยแตงกวา แครอท ปูอัด กุ้ง เนื้อไก่ แล้วม้วนแผ่นปอเปี๊ยะทับไส้ 1 รอบ ตลบด้านข้างซ้าย-ขวาเข้าหากัน แล้วม้วนขึ้นไปด้านบนจนสุดแผ่นแป้งค่ะ

ส่วนผสมน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน โดยประมาณนะคะ
1. น้ำตาลทรายแดง 4 ชต.
2. น้ำตาลปี๊บ 4 ชต.
3. น้ำมะขามเปียก 4 ชต.
4. ซีอิ้วดำ 1 ชต.
5. ซีอิ้วขาว 1 ชต.
6. น้ำปลา 1 ชต.
7. น้ำส้มสายชู 1/2 ชต.
8. เกลือ 1/4 ชช.
9. ผงพะโล้ 1/4 ชช.
10. แป้งมัน 1 ชต.
11. น้ำสะอาด 1 ชต.

ส่วนผสมข้อ 1-9 ใส่หม้อตั้งไฟอ่อนเคี่ยวไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมข้นเหนียว ละลายแป้งมันกับน้ำแล้วใส่ในหม้อน้ำจิ้ม คนให้เข้ากันดี เคี่ยวต่อไปอีกประมาณ 1 นาทีแล้วยกลงค่ะ

ส่วนผสมน้ำจิ้มเผ็ด
1. พริกขึ้หนู
2. กระเทียม
3. น้ำมะนาว
4. น้ำตาลทราย
5. น้ำปลา


นำส่วนผสมทุกอย่างปั่นรวมกันจนละเอียด ชิมรสเปี้ยว เค็ม เผ็ด หวานกลมกล่อมค่ะ หรือถ้าใครไม่มีเครื่องปั่นก็โขลกกระเทียมกับพริกขี้หนูให้ ละเอียดแล้วเติมน้ำมะนาว น้ำตาลทราย และน้ำปลาลงไปปรุงรสตามชอบค่ะ

รูปบนราดน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน ส่วนรูปล่างราดน้ำจิ้มเผ็ดค่ะ เราชอบทั้งสองแบบเลย บางครั้งราดผสมกันทั้งสองอย่างก็อร่อยแปลกดีค่ะ



Friday, October 23, 2009

ขนมปังนิ่มทนนิ่มนานสูตรนู๋หน่อง

นี่เป็นสูตรขนมปังนุ่มนิ่มของนู๋หน่องเพื่อนสาวคนเก่งของเราเองค่ะ ต้นตำหรับเป็นขนมปังมะพร้าวแต่เราเอามาใส่ไส้อย่างอื่นแทนนะคะ ต้องการดูสูตรต้นฉบับคลิกที่นี่ค่ะ --> ขนมปังมะพร้าว

ส่วนผสมแป้งโดว์
แป้งขนมปัง 150 กรัม
แป้งเค้ก 50 กรัม
ยีสต์แห้ง 3 กรัม
นมสดอุ่น 120 กรัม
น้ำตาลทราย 30 กรัม
เนยสด 40 กรัม
เกลือป่น 1/2 ชช.
นมผง 10 กรัม
วานิลาบัทเทอร์ (เราใส่เพิ่มเองค่ะ)

วิธีทำ วันนี้เรารีบเลยใช้เครื่องตีมือถือนวดให้ค่ะเร็วดี ประมาณ 5-6 นาทีก็เนียนกิ๊ก ขึงเป็นฟิล์มได้แล้วค่ะ

แบ่งนมสดมา 2 ชต. ใส่ยีสต์ลงไปในนมสด แล้วใส่น้ำตาลทราย 1 หยิบมือลงไป คนให้เข้ากันแล้วพักไว้ประมาณ 10 นาทีให้ยีสต์ขึ้น

ใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดลงในชามอ่าง เทยีสต์ที่หมักไว้จนขึ้นลงไปผสม ใช้ไม้พายคนพอแป้งจับตัวกันแล้วใช้เครื่องตัวหัวเกลียวนวดด้วยความเร็วกลาง-สูง ประมาณ 5-6 นาที หรือจนกว่าแป้งจะเนียน และหลุดจากขอบอ่างอย่างง่ายดาย จัดการรวบแป้งเป็นก้อนกลม ทาเนยบางๆ ให้ทั่วก้อนแป้งแล้วใส่กลับไปในชามอ่าง คลุมผ้าพักไว้ให้แป้งขึ้นประมาณ 1 ชม. หรือจนแป้งขึ้นเป็นสองเท่าค่ะ วิธีทดสอบว่าแป้งขึ้นได้ที่รึยังก็ใช้นิ้วจิ้มที่โดว์ดู หากแป้งไม่เด้งกลับแสดงว่าใช้ได้แล้วค่ะ

เมื่อแป้งขึ้นดีแล้วก็นำมาคลึงสัก 1-2 นาทีเพื่อไล่ลม แล้วตัดแบ่งเป็น 15-20 ก้อนเท่าๆ กัน แล้วแต่ใครชอบขนาดเล็กใหญ่แค่ไหนค่ะ คลึงแป้งที่ตัดไว้เป็นก้อนกลมๆ ค่ะ เรียงลำดับก่อนหลังไว้ด้วยนะคะ พักแป้งที่คลึงกลมไว้ประมาณ 10 นาทีก่อนนำมาขึ้นรูปค่ะ อย่าลืมใช้พลาสติกใสคลุมแป้งกันลมไว้ด้วยค่ะ

วันนี้เราทำไส้หมูหยองน้ำพริกเผา ไส้แฮมชีส และไส้ถั่วดำค่ะ มาดูส่วนผสมหมูหยองน้ำพริกเผากันนะคะ อันนี้กะๆ เอานะคะ ไม่ได้ตวง


เนยเค็ม 1 ชต.
หมูหยอง 1 ถ้วย
น้ำพริกเผา 1 ชต.
มายองเนส 1/2 ชต.

วิธีทำก็ละลายเนยในไมโครเวฟ เสร็จแล้วก็ใส่น้ำพริกเผาและมายองเนสลงไปคนให้เข้ากัน ตามด้วยหมูหยอง คนเข้ากันรอใส่ไส้ค่ะ

เสร็จแล้วเราก็จัดการขึ้นรูปขนมปังหมูหยองก่อนเลยค่ะ นำแป้งที่คลึงไว้มาหนึ่งก้อน แผ่ให้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า นำด้านแคบเข้าหาตัว ใส่ไส้หมูหยองตรงด้านบนของแป้ง กรีดด้านที่ติดกับตัวเราเป็นเส้น 6 เส้น แล้วม้วนแป้งทับหมูหยอง อย่าลืมปิดริมทั้งสองข้างด้วยนะคะ สุดท้ายก็ดึงเส้นที่กรีดไว้กลับไปพันหมูหยอง จับมันเล่นโยคะงอตัวนิดหน่อยแล้ววางบนถาดอบที่ปูกระดาษไขรองไว้ค่ะ

มาต่อกันที่แฮมชีสค่ะ เราหั่นแฮมกับชีสผสมมายองเนสนิดหน่อยนำมาเป็นไส้ค่ะ วิธีขึ้นรูปก็ตามภาพเลย คลึงเป็นบางๆ แล้วใส่แฮมชีสลงไปม้วนแล้วคลึงหรือดึงแป้งเบาๆ เพื่อให้ยีดออก เสร็จแล้วก็ม้วนเป็นก้นหอย ใส่พิมพ์พักไว้รออบค่ะ

สุดท้ายไส้ถั่วดำรูปดอกไม้เก๋ๆ อันนี้ต้องยกความดีความชอบให้หน่องเค้าค่ะ เราไปแอบลักวิชาขึ้นรูปมาจากบล็อกหน่องนั่นเอง เข้าเรื่องกันนะคะ นำแป้งมาแผ่ใส่ไส้ลงไปตรงกลาง จับริมหุ้มไส้ให้มิดแล้วคว่ำลงกดให้แบน ใช้มีดตัดเป็น 8 แฉก วางบนถาดอบแล้วบิดแป้งเล็กน้อยเพื่อกันไม่ให้แป้งมาติดกันตอนอบค่ะ

หลังจากขึ้นรูปแล้วเราพักแป้งประมาณ 20 นาทีแล้วจึงอุ่นเตาอบ 180 ซีใช้เวลาอบประมาณ 12-15 นาทีค่ะ

เมื่อขนมมีสีเหลืองนวลสวย เอาออกจากเตาอบแล้วทาเนยทันทีเพื่อความเงางามค่ะ อันนี้ไส้แฮมชีส นุ่มดีเหลือเกิน


เราทำก้อนเล็กๆ ตัดแป้งหนักแค่ 20 กรัมเองค่ะ อันเล็กๆ กินหายๆ เลย


ไส้หมูหยองน้ำพริกเผาค่ะ เมื่อไม่กี่วันนี้ยังบ่นว่าเบื่ออยู่เลย วันนี้กินทำไมอร่อยอีกแล้วก็ไม่รู้ สัญญาณอันตรายนะเนี่ย


ปิดท้ายด้วยดอกไม้ดำกันนะคะ ใครลองทำก็ขอให้อร่อยอ้วนกันถ้วนหน้าเหมือนเราทุกคนเลยค่ะ

Monday, October 12, 2009

กุ้งอบวุ้นเส้น : Prawns cooked in glass noodles


วันนี้มีกุ้งอบวุ้นเส้นมาฝากเพื่อนๆ ค่ะ เมนูนี้ทำกินบ่อยมากตามประสาคนบร้ากุ้ง เมื่อก่อนสมัยอยู่เมืองไทยเวลาไปร้านอาหารแล้วเพื่อนๆ ชอบสั่งกุ้งอบวุ้นเส้นมาด้วย เราไม่ค่อยชอบเลยนะ กินได้คำสองคำก็ขอบาย แต่หลังแต่งงานแล้วกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่เมืองไทย แล้วคุณปู้จายก็ได้ติดอกติดใจกุ้งอบวุ้นเส้นเข้าให้ พอกลับมาที่นี่แล้วเธอเกิดอยากกินก็ลำบากแจ๋วสิ

แต่ๆๆ พอลองทำกุ้งอบวุ้นเส้นกินเองครั้งแรกแจ๋วก็ติดใจเลยค่ะ ทำไมมันอร่อยเนี่ย เมื่อก่อนกินยังไงก็ไม่เคยรู้สึกว่ามันอร่อย ทำกินเองปุ๊บอร่อยขึ้นมาเชียว พวกหลงตัวเอง 55 หลังจากนั้นเมนูนี้ก็เป็นหนึ่งในเมนูที่ทำบ่อยมากจนคุณปู้จายเริ่มเบื่อแล้วฮ่ะ

ส่วนผสม สำหรับรับประทาน 2 คน
วุ้นเส้น 80 กรัม
ซีอิ๊วดำ 1 ชต.
กุ้งสดตัวโตๆ 6-8 ตัว
หมูสามชั้นหั่นเส้นบางๆ 50 กรัม
ต้นหอมอวบๆ 2 ต้น
รากผักชี 2 ราก
ขิงหั่นแว่น 3-4 แผ่น
กระเทียมกลีบใหญ่ 2 กลีบ
น้ำซุปไก่ 1/4 ถ.
ซีอิ๊วขาว 2 ชต.
น้ำมันหอย 1 1/2 ชต.
น้ำตาลทราย 1/2 ชต.
เหล้าจีน 1/2 ชต.
น้ำมันงา 1 ชช.
พริกไทยป่น 1 ชช. โปร่งๆ
น้ำมันพืช 1 ชต.
คื่นช่าย 2 ต้น (หรือตามชอบ)

วิธีทำ :
นำวุ้นเส้นไปลวกในน้ำร้อนแค่พอนิ่มแล้วสะเด็ดน้ำให้แห้ง เทใส่ชามอ่างตามด้วยซีอิ๊วดำ คลุกเคล้าให้เข้ากันดีแล้วพักไว้ก่อน จากนั้นหันไปผสมน้ำซุป ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย เหล้าจีน น้ำมันงา และพริกไทยป่นรวมกันแล้วคนให้เข้ากันดีค่ะ

ล้างกุ้งให้สะอาด ผ่าหลังดึงเส้นดำออก ส่วนหมูสามชั้นก็หั่นเป็นชิ้นกว้างประมาณ 2-3 ซม. ปอกเปลือกกระเทียมแล้วผ่าครึ่งหรือผ่าสี่ ลอกต้นหอมแล้วล้างให้สะอาดก่อนหั่นท่อน รากผักชีล้างแล้วทุบให้แตกค่ะ

นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันร้อนใส่ขิง กระเทียม และต้นหอมลงไปผัดพอส่งกลิ่นหอมก็ปิดไฟ ยกลงจากเตาค่ะ จากนั้นวางหมูสามชั้นที่หั่นไว้เรียงในก้นหม้อให้ทั่ว แล้วแบ่งผักที่ผัดไว้ครึ่งหนึ่งวางบนหมูสามชั้นค่ะ

นำกุ้งไปคลุกน้ำปรุงรสที่เราผสมไว้ ก่อนแบ่งกุ้งครึ่งหนึ่งวางเรียงบนผัก แบ่งวุ้นเส้นครึ่งหนึ่งกลบกุ้งให้ทั่วแล้วราดน้ำปรุงรสครึ่งหนึ่งบนวุ้นเส้น จากนั้นวางผักส่วนที่เหลือ ตามด้วยกุ้งและวุ้นเส้นส่วนที่เหลือ ราดน้ำปรุงรสที่เหลือทั้งหมดให้ทั่ววุ้นเส้นค่ะ

ปิดฝาหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อนสุด อบประมาณ 10 นาที แล้วจึงใส่คื่นช่ายหั่นท่อน ปิดฝาอบต่ออีก 5 นาที หรือจนกว่าเปลือกกุ้งจะเปลี่ยนเป็นสีแดงซึ่งแสดงว่าสุกแล้วค่ะ ปิดไฟ ยกลงจากเตาแล้วรับประทานร้อนๆค่ะ
 ลองทำดูนะคะ อร่อยมากเลย





Saturday, October 10, 2009

ไข่ลูกเขย : khai look koei



ช่วงนี้เป็นเทศกาลอีสเตอร์ค่ะ วันนี้นั่งคิดอยู่ว่าจะทำอาหารอะไรที่มันเข้ากับเทศกาลดี คิดไปคิดมาก็มาลงที่ไข่ลูกเขยนี่ล่ะค่ะ ไม่ได้ทานมาเป็นปีแล้วมั้ง แล้วฤกษ์งามยามดีก็มาถึง เย็นนี้กินไข่ลูกเขยกันแล้วกันนะไมค์นะ (โอเค..ไมค์ตอบ แต่ไม่รู้หรอกว่า ไข่ลูกเขยมันคืออะไร -.-' )

เครื่องปรุง
  • ไข่ไก่ 4 ฟอง
  • หอมแดง 3 หัว
  • น้ำตาลปี๊บ 3 ชต.
  • น้ำปลา 2 ชต.
  • น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วย
  • พริกแห้ง 5 เม็ด
  • น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
วิธีทำ

ไข่ไก่ต้มประมาณ 10 นาทีจนสุก ตักแช่น้ำเย็นจัดทันที ปอกเปลือกไข่ ใช้กระดาษซับน้ำให้แห้งสนิท แล้วใช้ไม้จิ้มฟันทิ่มให้ทั่วไข่ทั้งฟองเลยนะคะ ส่วนหอมแดงปอกเปลือกซอยบางๆ นำกระทะตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันร้อนจัดใส่ไข่ลงไปทอดให้เหลืองกรอบจนทั่วฟอง แล้วปิดไฟ ตักไข่ขึ้นวางบนกระดาษเพื่อซับน้ำมัน


เมื่อน้ำมันคลายความร้อนลงบ้าง แล้วใส่หอมซอยลงไปในกระทะ เปิดไฟอ่อนสุด เจียวหอมซอยไปเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องคนจนกว่าหอมจะมีสีน้ำตาลอ่อน ตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมัน แล้วใส่พริกแห้งลงไปทอดต่อให้กรอบแล้วตักขึ้น 


 
เทน้ำมันออกจากกระทะ โดยให้เหลือติดกระทะไว้ประมาณ 1 ชต. ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลาลงไปคนให้น้ำตาลละลาย เคี่ยวต่อไปเรื่อยๆ จนซอสข้นเหนียว ชิมรสเปรี้ยว เค็ม หวานตามชอบ แล้วนำไข่ที่ทอดไว้ลงผัดคลุกน้ำซอสให้ทั่ว เมื่อถึงเวลาเสิร์ฟ ฝ่าไข่เป็น 2 ซีก จัดเรียงในจาน ตักซอสราด โรยพริกแห้งทอด และหอมเจียว แต่งหน้าด้วยผักชี เสร็จแล้วจ้า ง่ายมากๆ เลยเนอะ


คุ๊กกี้แอ๊บเปิ้ล : Apple cookies


เราคิดทำคุ๊กกี้แอ๊บเปิ้ลขึ้นมาเพราะเกิดอาลัยอาวรณ์น้องแอ๊บเปิ้ลที่ซื้อมาเกือบสองอาทิตย์แล้ว แต่กินไม่หมดซะที สีเปลี่ยนจากเขียวอ่อนเป็นเหลืองอ่อน เหี่ยวหดหมดสภาพ ครั้นจะทิ้งก็เสียดาย เงินทองของหายากนิ และแล้วก็ลงมือจับน้องเปิ้ลมากวนแล้วทำเป็นไส้คุ๊กกี้ อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ ทำไป 18 ชิ้นกินคนเดียวเกือบหมด โอ๊ยๆ พุงช้าน

ส่วนผสมแอ๊บเปิ้ลกวน
  1. แอ๊บเปิ้ลเปรี้ยว 400 กรัม (ประมาณ 2 ลูกค่ะ)
  2. น้ำตาลทราย 80 กรัม
  3. เกลือป่น 1/3 ชช.
วิธีทำ
ปอกเปลือกแอ๊บเปิ้ลแล้วขูดละเอียด เทใส่หม้อ ใส่น้ำตาลทรายและเกลือป่น นำขึ้นตั้งไฟกลาง คนจนน้ำตาลละลายหมดและเริ่มเดือด ลดเหลือไฟกลางค่อนข้างอ่อน กวนไปเรื่อยๆ จนแห้งดี ใช้เวลากวนประมาณ 20 นาทีค่ะ จากนั้นพักให้เย็นแล้วปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาดเท่าๆ กัน 36 ลูกค่ะ

ส่วนผสมโดว์ สำหรับคุ๊กกี้ 36 ชิ้นค่ะ
  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 150 กรัม
  2. อัลมอนด์มีล 30 กรัม
  3. เนยสดเค็ม 100 กรัม
  4. น้ำตาลทรายป่น 50 กรัม
  5. เกลือป่น 1/4 กรัม
  6. ไข่ไก่ 1/2 ฟอง
  7. วานิลาบัทเทอร์ 1/2 ชช. (ถ้าไม่มีใช้วานิลาเอ๊กซ์แทร็คหรือกลิ่นวานิลาธรรมดาแทนก็ได้ค่ะ)
วิธีทำ
ผสมแป้งกับอัลมอนด์มีลร่อนหรือใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน แล้วหันไปตีเนยจนเนียน ใส่น้ำตาลทรายและเกลือป่นลงไปตีประมาณ 1 นาที จากนั้นใส่ไข่และวานิลาลงไปตีจนเข้ากันดี ใส่ส่วนผสมแป้งลงไปตีด้วยความเร็วต่ำแค่พอเข้ากัน อย่าตีนานนะคะเดี๋๋ยวแป้งเหลวจะคลึงยาก จากนั้นก็แผ่แป้งเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ใช้พลาสติกใสคลุมให้มิดชิดก่อนนำไปแช่เย็น 30-60 นาทีค่ะ

จากนั้นนำแป้งมาคลึงทำรูปร่างคุ๊กกี้ได้ตามจินตนาการเลย เราเลือกทำรูปดอกไม้ ตัวหนอน และรูปกิ๊บติดผม (พยายามดูให้เป็นกิ๊บนะคะ อิอิ) รูปบนนี้ที่ปั้นเป็นลูกกลมๆ นี้จะทำเป็นตัวหนอนค่ะ คลึงกลม แผ่ให้แบน ใส่ไส้ หุ้มให้มิด คลึงยาว แล้วทำลายด้วยส้อม

เนื่องจากไม่มีไม้คลึงครองแครงเราก็เลยใช้ส้อมทำลายแทน ทำไป 1 ชิ้นชักขี้เกียจเลยนำมาคลึงกับที่ตัดไข่ต้ม มันเร็วดี 55 แล้วลายมันก็เลยไม่สวยและไม่หนอนเท่าที่ควร แต่ช่างมันเนอะ เข้าปากแล้วน้องหนอนก็ซี้แหง๋แล้ว

ถ้าทำลายอื่นก็ง่ายๆ เลย แค่แผ่แป้งเป็นแผ่นกลมให้หนาประมาณ 3 มม. แล้วใช้พิมพ์คุ๊กกี้ตัดตามชอบ วางไส้ตรงกลางแล้ววางบนถาดอบ ตกแต่งตามชอบ แค่นี้เองค่ะ


อุ่นเตาอบไว้ที 180°C/350°F ปูกระดาษไขรองถาดอบไว้ด้วยค่ะ นำคุ๊กกี้เข้าอบประมาณ 15 นาที หรือจนกว่าจะมีสีน้ำตาลสวยค่ะ จากนั้นนำออกจากเตาอบ แซะออกจากพิมพ์ แล้วพักไว้บนตะแกรงจนเย็นสนิทค่ะ